หลักการเหตุผลการจัดหากล้อง Body Camera แบบออนไลน์หรือ ออฟไลน์

หลักการเหตุผล ข้อกฏหมายอ้างอิงการจัดหากล้อง Body Camera แบบออนไลน์หรือ ออฟไลน์

ในโครงการการจัดหากล้องบอดีคาเมร่า ตำรวจ จะอ้างเหตุในการจัดหา กล้องบอดีคาเมร่า เพื่อปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทำร้ายและการกระทำที่ทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ในการปฏิบัติตาม อำนาจหน้าที่ เพื่อเก็บหลักฐานในการควบคุมตัวผู้ต้องหาตั้งแต่มีการจับกุม จะต้องมีการบันทึกภาพวีดีโอไว้ให้ตรวจสอบได้ตลอดเวลา แต่ กราบเรียนถามว่า บันทึกแล้วถ้าคนหาย ไฟล์วีดีโอ ก็หายไปด้วย จะป้องกันตามวัตถุประสงค์ได้จริงหรือไม่ในเมื่อระบบการบันทึกตรวจสอบมิได้มีการบันทึกไว้ในแหล่งที่ตรวจสอบได้

ส่วนหน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบจ. เทศบาล อบต. สำหรับงานเทศกิจ งานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย หน่วยงานท้องถิ่น ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เทศกิจ , เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ในเหตุผลความจำเป็นตามอำนาจหน้าที่นั้น มีอำนาจหน้าที่ในการ ส่งเสริมสนับสนุนการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 16 ให้เทศบาล เมืองพัทยา และองค์การบริหารส่วนตำบลมีอำนาจและหน้าที่ในการจัดระบบการบริการสาธารณะเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นของตนเองดังนี้ (30)การรักษาความสงบเรียบร้อย การส่งเสริมและสนับสนุนการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

โดยในภารกิจนั้นหน่วยงานรัฐได้รับการยกเว้น ไม่ต้องปฏิบัติตาม ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 ดังที่มีข้อความระบุไว้ “มาตรา 4 พระราชบัญญัตินี้ไม่ใช้บังคับแก่ ….(2) การดำนินการของหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงของรัฐ ซึ่งรวมถึงความมั่นคงทางการคลังของรัฐ หรือการรักษาความปลอดภัยของประชาชน” ดังนั้นหน่วยงานรัฐใช้ปฏิบัติงานในอำนาจหน้าที่ สามารถใช้คุณสมบัติทางเทคโนโลยีในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ได้ เช่นภาพใบหน้า รถยนต์หมายเลขทะเบียน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานและประชาชนได้

หลักการเหตุผลเกี่ยวกับ กล้อง บอดี้คาเมร่า ระบบออนไลน์ หรือ ออฟไลน์

หน่วยงานจะต้องเลือกว่าจะจัดหากล้องบอดี้คาเมร่า แบบออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ ให้เจ้าหน้าที่ใช้งาน มีประเด็นการเข้าใจว่า การจัดหากล้อง Body Camera แบบ Offline ทำให้เกิดความโปร่งใส และเกิดประโยชน์กับประชาชน นั้นเป็นการเข้าใจผิดอย่างมาก เนื่องจาก

  • การใช้งานกล้อง Body Camera แบบ Offline นั้น ไม่สามารถกำกับควบคุม ให้มีการเปิดใช้ ตลอดเวลา บันทึกตลอดเวลา เมื่อเจ้าหน้าที่จะไม่โปร่งใส ก็ปิดกล้องไม่ใช้เช่นเดิม ต่างคนต่างบันทึก ไม่สามารถตรวจสอบในขณะปฏิบัติหน้าที่ได้
  • โดยหากกล้อง Body Camera แบบ Offline มีระบบบันทึกส่วนกลางให้ต้องมา Upload เข้าเก็บ กลับเป็นภาระของเจ้าหน้าที่ ต้องให้เจ้าหน้าที่ผู้ใช้งานนำมา Sync Upload เข้าระบบ Server ส่วนกลาง การให้เจ้าหน้าที่นำกล้อง Body Camera แบบ Offline มาSync Upload เข้าระบบ Server ส่วนกลาง เป็นการเอาไฟล์มากองไว้ เพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น ตรวจสอบค้นหาไม่ได้ ต้องนั่งไล่ดูไฟล์อย่างเดียวซึ่ง เป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ
  • นอกจากนี้ ไม่มีระบบ AI Search จะค้นหาด้วยเงื่อนไขใดๆ ก็ไม่ได้ ไม่มีระบบการค้นหาข้อมูล ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ ที่เกิดกับระบบกล้องวงจรปิด CCTV ในปัจจุบัน ที่ เมื่อนำมาบริการประชาชน ต้องเสียเวลาไล่กล้อง นั่งดู กล้องหลายชั่วโมง หลายกล้อง
  • Body Camera แบบ Offline ย่อมไม่สามารถนำข้อมูลที่จัดเก็บ บุคคล ยานพาหนะมาให้ประชาชนค้นหาได้ อันไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์หลักในการใช้งบประมาณที่ต้องให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 มาตรา 7 ระบุข้อความว่า ” มาตรา 7 ให้หน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายงบประมาณตามกฏหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายอย่างเคร่งครัด โดยต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ”
  • ดังนั้นในการจัดหา เครื่องมือในการช่วยปฏิบัติหน้าที่ต้องเป็นเครื่องมือที่ จัดหาแล้วสามารถใช้งานได้อย่างแท้จริง โดยอุปกรณ์มี Body Camera แบบ ออนไลน์ ผ่านเครือข่ายมือถือ 4G/5G ที่สามารถตรวจสอบการทำงานจากหน่วยงานได้ตลอดเวลาที่มีการใช้งานในขณะปฏิบัติหน้าที่ ที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยเจ้าหน้าที่ไม่เป็นภาระในการใช้งาน จัดเก็บข้อมูล การค้นหาข้อมูลภายหลัง และรวมไปถึงการนำข้อมูลไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ในภายหลังได้